ประสิทธิภาพในการกักเก็บน้ำของเส้นผม

ผมแห้งเป็นลักษณะของเส้นผมที่ขาดความชุ่มชื้น ไร้น้ำหนัก โดยเกิดจากการที่น้ำมันธรรมชาติภายในเส้นผมถูกทำลาย หรือเกล็ดผมหลุดลอกออกไปจนทำให้ประสิทธิภาพในการกักเก็บน้ำของเส้นผมลดลง โดยปกติแล้ว ความชุ่มชื้นของเส้นผมที่สุขภาพดีควรอยู่ที่ 10% แต่หากความชุ่มชื้นมีระดับที่ต่ำกว่านี้ย่อมหมายถึงเส้นผมมีสุขภาพไม่ดี ส่งผลให้เกิดปัญหาผมแห้งเสีย ชี้ฟูและไร้ซึ่งน้ำหนักได้ อย่างไรก็ตาม การขาดความชุ่มชื้นของเส้นผมสามารถเกิดขึ้นได้จากหลากหลายปัจจัยรวมกัน

การเปลี่ยนสีผม หรือการย้อมผมนั้น เป็นแฟชั่นที่แพร่หลายกันมากในปัจจุบัน รวมไปถึงการทำสีเพื่อปกปิดผมขาวก็มีความนิยมอย่างมากเช่นกัน แต่ก็ยังมีหลายท่าน ละเลยการบำรุงผมหลังทำสี จึงเกิดปัญหาใหญ่หลังการทำสีผมที่หลายๆ คนพบเจอ คือ เส้นผมมีอาการแห้งฟู เสีย ไร้น้ำหนัก ที่แม้จะพยายามบำรุงเท่าไหร่แล้วก็ยังแห้งเสียชี้ฟูอยู่ดี หรือแม้กระทั่งผมร่วงเป็นหย่อม เหตุที่เป็นเช่นนี้เกิดจากสารเคมีที่มาสัมผัสเส้นผม และอาจตกค้างบนหนังศีรษะของคุณ ซึ่งอาจเป็นสาเหตุผมร่วงระยะยาวได้หากไม่ได้มีการบำรุงรักษาฟื้นฟูตั้งแต่เนิ่นๆ  ควรหลีกเลี่ยงการใช้ความร้อนกับผมอย่างเด็ดขาด เพราะหากยังคงใช้ความร้อนกับผมอยู่ จะยิ่งทำให้เส้นผมแห้งเสียมากกว่าเดิม ซึ่งหากใครที่ต้องใช้ไดร์เป่าผม เพื่อให้ผมแห้งหลังการสระเป็นประจำ ควรเปลี่ยนเป็นเช็ดผมให้หมาดแล้วใช้พัดลมเป่าแทน เท่านี้ก็สามารถดูแลเส้นผมได้ง่ายขึ้นแล้ว

มาถึงสูตรนี้ที่สาวๆ ผมสวยเค้านิยมทำกันค่ะ คือ สูตรหมักผมจากน้ำมันมะกอก ซึ่งใครที่ผมหยาบ กระด้าง ผ่านการทำเคมีมาอย่างหนักหน่วง ลองสูตรนี้เลยค่า! นำน้ำมันมะกอก ผสมไข่แดง และน้ำผึ้ง หมักผมทิ้งไว้ 1 ชม. คลุมผมไว้ด้วยนะจ๊ะ จากนั้นก็สระผมตามปกติได้เลย ผมจะสุขภาพดีขึ้นตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ เพราะน้ำมันมะกอกทำให้ผมเงางาม มีน้ำหนัก น้ำผึ้งช่วยเติมความชุ่มชื่นให้กับเส้นผม และไข่แดงมีโปรตีนช่วยลดปัญหาผมแห้งเสีย ทำให้ผมนุ่มลื่นมากยิ่งขึ้น สาวๆ ที่ชอบยืด ดัด ย้อม อย่าพลาดสูตรนี้เลยนะคะ ผมสวยได้เหมือนทำทรีทเม้นท์ราคาแพง ในงบไม่ถึง 100 บาทค่ะ เทคนิคง่ายๆจากสถาบันเรียนตัดผมชายBSA ที่ซอยรามคำแหง 26/2 ค่ะ